Google Glass แว่นตาอัจฉริยะสุดไฮเทค ที่มาพร้อมกับการผสมผสานระหว่าง แว่นตาธรรมดา กับ เทคโนโลยีบนคอมพิวเตอร์ ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ทาง Google เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา โดยสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านจอแว่นตาได้อย่างสะดวกสบาย มีกล้องถ่ายรูปในตัว สามารถบอกเส้นทางให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ และอื่นๆ ที่จะมาสั่นสะเทือนวงการเทคโนโลยีให้ไม่หยุดนิ่ง เตรียมพร้อมให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสกับนวัตกรรมสุดล้ำนี้ได้อย่างไม่ต้อง จินตนาการอีกต่อไป
Google Glass คืออะไร ?
Google Glass เป็นอุปกรณ์สวมใส่ชนิดหนึ่งในรูปแบบของแว่นตา โดยมีการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อโลกอินเตอร์เน็ต ผ่านระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งทำให้สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆผ่านแว่นตา
Google Glass ทำอะไรได้บ้าง?
เราสามารถสวมใส่ Google Glass เพื่อ ทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยมีอินเตอร์เน็ตติดตัวอยู่ตรงหน้าเรา สามารถสวมใส่ได้ตลอดเวลา พกพาไปได้ทุกที่ โดยจะทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้ช่วยติดตามเราอยู่ตรงหน้าจอแสดงผล ซึ่งจะอยู่ตรงมุมขวาของสายตา เพื่อไม่ให้มาบดบังการมองเห็นจากการมองแบบปกติ และด้านข้างหน้าจอก็มีกล้องดิจิตอล สามารถถ่ายภาพได้ทุกที่ ทุกเวลาที่สวมแว่น ไม่ว่าจะตอนกำลังเดิน วิ่ง หรือแม้แต่ออกกำลังกาย และยังสามารถแชทในรูปแบบของ Video ผ่านแว่นตาได้ด้วย
สำหรับฟีเจอร์เด่นๆ ของ Google Glass ก็จะมีในเรื่องของ เข็มทิศ และ แผนที่ ช่วยในการบอกเส้นทางต่างๆ, การถ่ายภาพ และถ่ายวิดิโอ ที่สามารถแชร์ผ่าน Social Media ได้อย่างง่ายดาย, ระบบแจ้งเตือน เมื่อมีนัดหมายอะไรที่บันทึกไว้ เมื่อถึงเวลาก็จะมีไอคอน ป๊อบอัพ เด้งเตือนขึ้นมาที่หน้าจอ และสามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง แต่ตอนนี้ ใช้ได้เพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น โดยการเริ่มต้นการใช้งาน ต้องพูดคำว่า “ok! glass” เท่านั้น แล้วต่อด้วย สิ่งที่เราต้องการจะสั่งให้ทำ อย่างเช่น จะถ่ายรูป ก็บอกเพียง “take a picture” ก็สามารถถ่ายภาพได้โดยไม่ต้องยกมือขึ้นมาให้เมื่อยตุ้มเลยทีเดียว
ระบบปฏิบัติการ : | Android 4.0.3 Ice Cream Sandwich |
หน้าจอ : | HD |
RAM : | 1 GB |
ROM : | 16 GB |
กล้อง : | 5 ล้านพิกเซล |
Video : | 720p |
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการใช้งานอื่นๆ เช่น
หน้าจอแสดงผลแบบ HD ทำให้เหมือนกำลังรับชมจอภาพขนาด 25 นิ้วที่ระยะห่าง 8 ฟุต
Bone Conduction Transducer ทำหน้าที่ส่งเสียงสัญญาณด้วยการสั่นไปยังหูชั้นในได้โดยตรง
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi , Bluetooth , GPS
มีหูฟัง, Microphone, Touchpad, Accelerometer, Gyroscope และ เข็มทิศ
สามารถปรับขนาดขาแว่นให้พอดีกับใบหน้าผู้สวมใส่ได้
แบตเตอรี่มาตรฐานใช้ได้นาน 1 วัน แต่ถ้ามีการใช้งาน ก็จะลดหลั่นระยะเวลาลงไป เช่น ใช้ถ่ายวิดิโอ ก็จะทำให้เปลืองแบตเยอะขึ้น
แต่ถึงแม้ว่า Google Glass จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ดูเหมือนจะก้าวหน้าล้ำอนาคตที่สุดในตอนนี้ เสมือนว่าได้ใช้ชีวิตอยู่ในภาพยนตร์แนว Scientific-fiction ทั้งหลายที่เราเคยดูกันหลายๆเรื่อง แต่ Google Glass ก็ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ รวมไปถึงกระแสสังคมในเชิงลบด้วยเช่นกัน เหมือนกับอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นอื่นๆ ในทีนี้ เราจะมาดู ข้อดี – ข้อเสีย ของ Google Glass กันบ้างค่ะ
รองรับกับทุกใบหน้า ด้วยขาแว่นที่สามารถปรับขนาดได้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเลยว่าแว่นตาจะหลวม แถมยังมีดีไซน์หลายแบบให้เลือก ตามความชอบของแต่ละคนได้อีกด้วย
สามารถ สั่งงานได้ด้วยเสียง โดยไม่ต้องหยิบจับอุปกรณ์ไฮเทค จึงสามารถใช้งานได้โดยที่กำลังถือของอยู่ หรือแม้แต่การทำกิจกรรมอื่นๆที่ไม่ว่าง เช่น ออกกำลังกาย ซักผ้า รีดผ้า หรือแม้แต่ทำอาหาร เราสามารถใช้งาน Google Glass ได้สบายๆเลยล่ะ
เสมือนมีผู้ช่วย คอยแจ้งเตือน บอกเส้นทาง ทำให้รู้สึกสะดวกสบาย
สามารถ ต่อยอดให้กับเทคโนโลยีของวงการอื่นๆได้ในอนาคต อย่างเช่น ใช้ในวงการแพทย์ อาจเป็นอุปกรณ์ที่คอยช่วยเหลือผู้ป่วยหรือรักษาผู้ป่วยได้ด้วยการให้แว่นตาอัจฉริยะนี้เป็นผู้ช่วยแจ้งเตือนต่างๆ หรือกระทั่งให้ข้อมูลในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในกรณีที่ทำได้ยาก
ราคา แพง แน่นอนว่า ไฮเทคขนาดนี้ ย่อมมีราคาแพงเป็นธรรมดา แต่มันจะไม่เป็นข้อเสียเลยถ้าเมื่อเทียบกับสเปคของตัวเครื่องที่สุดแสนจะ ธรรมดาแล้ว ในส่วนของแอพพลิเคชั่นก็มีข้อจำกัดในการใช้งานอีกมากมายด้วย อาจทำให้รู้สึกว่า นอกจากพกพาสวมใส่เป็นแว่นตาได้ตลอดเวลา สั่งงานด้วยเสียงได้แล้ว ก็ยังเล่นอะไรไม่ได้ไม่ค่อยมากนัก กับราคาขนาดนี้ เลยทำให้รู้สึกว่าแพงไปนิดนึงค่ะ
รอง รับการสั่งงานด้วยเสียงเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น แน่นอนว่า สั่งเป็นภาษาไทยไปก็คงใช้การไม่ได้อยู่ดี แต่ก็มีบางส่วนที่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทยแล้ว ใช้งานได้ก็มีเหมือนกันนะ
การ ใช้งานกล้อง เป็นที่วิพากษ์วิจารย์ว่า การถ่ายภาพด้วย Google Glass นั้น ถูกศีลธรรมแล้วหรือ เพราะสามารถแอบถ่ายได้อย่างง่ายดาย แถมยังได้ทุกที่ ทุกเวลา นั่นหมายความว่า ผู้ที่ถูกถ่าย หรือ ภาพที่ถูกถ่าย อาจจะเป็นการละเมิดสิทธิ์ในส่วนนี้ไปก็ได้ ซึ่ง Google เองก็ได้ออกมาเตือนแล้วว่า เรื่องแบบนี้อยู้ในวิจารณาณและกาละเทศะของผู้ใช้งาน แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรกันว่า ผู้ใช้งานทุกคน มีจิตสำนึกที่ดีเหมือนกันหมด ? อย่างไรก็ตาม ทางกูเกิ้ล เองก็ได้ออกข้อบังคับการใช้งานไว้ ซึ่งถ้าหากพบเห็นว่ามีการละเมิดกฏ กูเกิ้ลสามารถยกเลิกบริการแก่ผู้ใช้งานได้เหมือนกัน สำหรับรัฐ เวอร์จิเนีย ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกกฏหมายห้ามใช้ Google Glass ขณะขับรถ ซึ่งผู้ใช้งานต้องศึกษากฏระเบียบเพิ่มเติมของแต่ละท้องถิ่นอีกด้วย ถึงแม้ว่ารัฐอื่นจะยังไม่มีประกาศใช้ แต่ก็ต้องติดตามข่าวสารข้อมูลดีๆอีกที
เครื่อง ร้อน พบว่า เมื่อใช้งานอย่างต่อเนื่องไปได้ไม่ถึงชั่วโมง มีการแจ้งเตือนจาก Google Glass ที่สวมใส่อยู่ ว่าควรจะหยุดพักการใช้งานเพื่อให้เครื่องเย็นลงหน่อย อีกทั้งยังเปลืองแบตอีกต่างหาก
ตัวเครื่องผลิตจากไทเทเนียม ที่มีน้ำหนักเบา แต่เมื่อใส่ไปนานๆ ก็ทำให้รู้สึกหนักๆ เมื่อยๆได้เหมือนกัน
สำหรับกระแสตอบรับ Google Glass นั้น อาจจะยังไม่กว้างขวางนัก เนื่องจากราคาที่แพงจนเกินที่ทุกระดับจะเอื้อมถึงได้นั่นเอง แต่ก็ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดย Google ซึ่งตอนนี้ก็มีกระแสข่าวลืออีกเหมือนกันว่า Samsung เองก็กำลังซุ่มทำแว่นตาอัจฉริยะบ้าง เหมือนกัน และคาดว่า คงจะมีค่ายอื่นๆ ซุ่มทำอยู่บ้างแหละ ยิ่งเทคโนโลยีสมัยนี้ก้าวไกลไปเท่าไหร่ สิ่งที่เราเคยเอื้อมไม่ถึง หรือคาดไม่ถึงในสมัยก่อน ก็ยิ่งเข้าใกล้เรามากเท่านั้น ในอนาคตจะมีค่ายไหนทำแว่นตาอัจฉริยะนี้ขึ้นมาอีก และจะเข้าถึงได้ทุกกลุ่มลูกค้าหรือไม่นั้น เราก็ต้องติดตามกันต่อไป
© GAMGON GAGGAME. All Rights Reserved. Design by HTML Codex